วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Oryzanol 48 P & Q10 น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวผสมโคเอ็นไซม์ คิวเท็น แกมม่า 48




มีคุณสมบัติช่วยป้องกัน การบำบัดและรักษาโรคร้ายแรงบางชนิด ทั้งยังสามารถฟื้นฟูระบบต่างๆ ให้ร่างกายได้อีกด้วย  ประกอบด้วยสารอาหารต่อไปนี้

น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil 442 mg.) เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ซ่อมแซมเซลล์ ลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง เสริมสร้างความจำ ลดความเครียด 
แกมมา ออริซานอล 48 (Gamma Oryzanol 48 mg.)ช่วยลดระดับไขมันในหลอดเลือด 
โค คิวเท็น (Co Q10 5mg) เพิ่มพลังงานให้กับเซลล์ และช่วยต้านอนุมูลอิสระ 
วิตามินอี (Natural Vitamin E Oil 5 mg.) ช่วยการทำงานของระบบประสาท ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ยืดหยุ่นลดริ้วรอย 


Gamma Oryzanol แกมมา-ออริซานอล ในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวป้องกันโรคได้จริงหรือ?
จากงานวิจัยและทดลองของผู้เชี่ยวชาญทั้งแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับสารอาหารและคุณค่าคุณประโยชน์ของ "น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว" พบว่ามีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์มากมายทั้งทางด้านป้องกัน บำบัด และรักษา ช่วยให้ร่างกายเกิดความสมดดุลป้องกีันโรคต่างๆที่จะเกิดกับร่างกายได้

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสกัดมาจากข้าวหอมมะลิสายพันธุ์ Oryza Glaberrim คัดเอาส่วนที่เป็นจมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวนำมาสกัดทำให้ได้สารที่ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์สามารถต้านโรคได้ ทางการแพทย์ใช้ควบคู่กับการรักษาคนไข้โรคร้ายๆบางชนิดเนื่องจากการรักษาบางอย่างทำให้ร่างกายผู้ป่วยอ่อนแอไม่สารถทนต่อการรักษาได้ จึงจำเป็นต้องให้อาหารเสริมเพื่อไปช่วยบำรุงร่างกายผู้ป่วยอย่างเร่งด่วน ซึ่งนอกจากการรักษาจะได้ผลดีแล้ว ยังสามารถช่วยฟื้นฟูระบบต่างๆในร่างกายได้อีกด้วย 


น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว มีสารอาหารที่สำคัญคือ
  • สารแกมมา-ออริซานอล (Gamma Oryzanol) ที่มีคุณสมบัติช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ทำให้อวัยวะสำคัญเช่น ตับ ไต หัวใจ สมอง ตับอ่อน และอื่นๆ มีเลือดไปเลี้ยงมากขึ้นทำให้สภาพร่างกายที่กำลังเสื่อมสภาพแข็งแรงขึ้นสามารถกลับมาทำงานได้เป็นปกติ ลดอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ ตับ ไต เบาหวาน อีกทั้งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidation) และป้องกันแสง UVได้ 
  • สารฟอสโฟไลปิด (Phospholipids) ประกอบด้วย เลคติน, เซฟฟาริน, ไลโซเลซิติน ซึ่งมีสวนสำคัญในการสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเซลล์ประสาทสมอง, ป้องกันเซลล์ประสาทจากสารที่เป็นพิษ และอนุมูลอิสระต่างๆ ช่วยลดความเครียด และเสริมสร้างความจำ 
  • สารเซราไมด์ (Ceramide) เป็นส่วนประกอบสำคัญของชั้นใต้ผิวหนัง ช่วยทำให้ผิวหนังยืดหยุ่น การเสริมเซราไมด์ให้เพียงพอทั้งการรับประทานหรือการให้ทางผิวหนังในรูปแบบการทาครีมหรือโลชั่น จะช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื่น เปล่งปลั่ง ปราศจากริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร นอกจากนี้แล้ว เซราไมด์ ยังมีคุณสมบัติเป็นไวท์เท็นเนอร์ (Whitener) สามารถยับยั้งการสังเคราะห์เมลานิน (Melanin) อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ บนใบหน้าหรือผิวพรรณได้อีก ทั้งยังเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) ที่ช่วยให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณนุ่มนวลแลดูอ่อนกว่าวัย 
  • วิตามินบี - คอมเพล็กซ์ (B-Complex) และเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยทำให้การทำงานของระบบประสาทดีขึ้น ช่วยลดภาวะท้องผูกเนื่องจากทำให้อุจจาระอ่อนตัวเคลื่อนผ่านลำไส้ใหญ่ได้ง่ายขึ้น ช่วยลดภาวะเสี่ยงต่อการเป็นริดสีดวงทวารหนัก และมะเร้งลำไส้ใหญ่ 
  • สารเมลาโทนิน (Melatonin) ช่วยทำให้นอนหลับสบาย ช่วยลดความเครียด
  • สารไฟโตสเตอรอล (Phytosterols), แร่ธาตุต่างๆ โปรตีน และ สารโทคอล (Tocols) วิตามินอีธรรมชาติ ในรูปของโทโคเฟอรอล (Tocopherol) และโทโคไทรอีนอล (Tocotrienol) ที่ช่วยยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระ ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคต่างๆได้โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้จะบำบัดได้ผลดี 
สาระน่ารู้เกี่ยวกับน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว
น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว เป็นส่วนที่ได้จากการนำเอาเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวและจมูกข้าวมาผ่านกระบวนการสกัดเพื่อให้ได้มาซึ่งน้ำมันรำข้าวดิบและนอกจากนี้น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวยังมีกระบวนการกรองเอากากรำข้าวออกเหลือแต่ส่วนที่เป็นสารอาหารต่างๆ ที่ละลายอยู่ในน้ำมันรำข้าว ก่อนจะนำมาบรรจุเป็นแคปซูล


กรดไขมันอิ่มตัว (Saturated Fatty Acid) 
โดยทั่วไปแนะนำให้บริโภคไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10% ของพลังงานทั้งหมด น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวมีสัดส่วนของกรดไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10% จึงเหมาะสมต่อการบริโภคเพื่อดูแลสุขภาพ
กรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fatty Acid) กรดไขมันไม่อิ่มตัวมีบทบาทต่อการลดระดับไขมัน โดยลด แอลดีแอลคอลสเตอรอล ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-C : Low Density Lipoprotein-Cholesterol) ช่วยเพิ่ม เอชดีแอล ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่ดี HDL-C : High Density Lipoprotein-Cholesterol) จึงช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

วิธีการสกัดน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวทำได้ 2 วิธีใหญ่ๆคือ

  1. สกัดโดยตัวทำละลายเฮกเซน (Hexane) สามารถสกัดน้ำมันดิบได้ประมาณ 20% น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวที่ใช้สารเฮกเซนในการสกัดนั้น หากรับประทานเข้าไปมากๆอาจจะทำให้มีสารเฮกเซนสะสมอยู่ในร่างกายอันเป็นบ่อเกิดของโรคมะเร็งได้
  2. สกัดเย็นหรือ Cold Press คือการนำรำข้าวและจมูกข้าวมาผ่านเครื่องสกัดเย็นและมีการปรับคุณภาพเอาตะกอนของรำข้าวทิ้ง จะได้น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวที่ใสบริสุทธิ์และคงคุณค่าของข้าวได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีความปลอดภัยกว่าวิธีแบบเฮกเซน แต่จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าแบบเฮกเซน (น้ำมันรำข้าวของ PGP Gold Star สกัดด้วยวิธีสกัดเย็น หรือ Cold Press ) 
TIP!!!! จะรู้ได้อย่างไรว่าน้ำมันรำข้าวแะจมูกข้าวที่เรารับประทานนั้นผ่านกระบวนการสกัดแบบไหน ถ้าเป็นการสกัดแบบเฮกเซนทดสอบได้จากการเคี้ยวน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวเม็ดนั้นให้แตกในปาก ถ้ามีกลิ่นคล้ายน้ำมันก๊าดแสดงว่าสกัดโดยวิธีเฮกเซน 


สารอาหารใน "น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว" 
กับการป้องกันโรค 

โรคเบาหวาน 
ในน้ำมันรำข้าวสกัดมีธาตุโครเมียม (Cr.) ที่ย่อยงายถึง 265 x 10-3 mg. / 100 mg. โครเมี่ยมที่ร่างกายดูดซึมเข้าไปในระบบเลือดจะทำหน้าที่ในการจับฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้ฮอร์โมนอรซูลินคงตัวได้นานเกาะตามเซลล์ต่างๆ ของกล้ามเนื้อทำให้ฮอร์โมนอินซูลินมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคนไข้เบาหวานควบคุมได้ง่ายขึ้น
ในน้ำมัน Linoleic acid (ไลโนเลอิค) 33% ที่มีอยู่ในน้ำมันรำข้าวทั้งหมดจะเปลี่ยนเป็นสารโปรสตาแกลนดิน Cyclic AMP ซึ่งจะทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายรับกลูโคสได้มากขึ้น ทำให้กลูโคสในเลือดลดลง
Tocopherol, Tocotrienol จะไปช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลที่อุดตันในเส้นเลือด กลุ่มเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงไต, ช่วยทำให้กลุ่มฮอร์โมนกลูโคสเตียรอย, มินเนอโรสเตียรอย, แอนโดรสเตียโรนทำงานได้ปกติ มีผลทำให้ร่างกายลดการสลายกลูโคสจากกล้ามเนื้อ, ไกลโคเจนจากตับ กลูโคสจากเนื้อเยื่อไขมัน ทำให้ความมีพิษในเลือดลดลง เนื่องจากยูเรีย, ยูริก, กรดไขมันในเลือดลดลงม ลดเลือดคั่งตามเท้า
ตับอ่อน จะทำงานได้ตามปกติ สามารถที่จะผลิตฮอร์โมนอินซูลินตามปกติ เนื่องจากฮอร์โมนที่สั่งการต่อมใต้สมองทำงานได้ตามปกติไม่หลั่งฮอร์โมนอินพิเนพพริน และนอริพิเนฟ มากเกินความจำเป็น

โรคทางสายตา (ต้อกระจก, ต้อหิน, บำรุงสายตา)
โปรวิตามินเอ-เบต้าแคโรทีน, วิตามินเอและเบต้าแคโรทีนที่มีสูงมากในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวดิบ สามารถป้องกันโรคที่เกิดจากการขาดวิตามินเอได้ โดยเฉพาะโรคน้ำตาแห้ง, โรคต้อ, เซลล์สายตาถูกทำลาย
ในน้ำมัน Linoleic acid (ไลโนเลอิค) จะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นโปรสตาแกลนดิน ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อปรัีบม่านตาให้ทำงานได้ดีขึ้น

โรคความจำเสื่อม, โรคไหลตาย 
ในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสกัด มีสารฟอสฟอไลปิด, ไกลโคไลปิด ที่มีผลทำให้สมองเซลล์สมองได้รับการซ่อมแซมในส่วนที่จุดเชื่อต่อหลุด และยังช่วยบำรุงเซลล์ประสาทให้แข็งแรง

บำรุงสมองและบำรุงประสาท 
น้ำมัน Linoleic acid (ไลโนเลอิค) ช่วยทำให้กล้ามเนื้อต่างๆ สามารถดูดซับกลูโคส และกรดอะมิโน ได้มากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนสภาพฮอร์โมนโปรสตาแกลนดิน ทำให้เกิด Cyclic AMP มากขึ้น ทำให้อาหารที่เหลืออยู่ในเลือดที่เป็นกลุมโปรตีน, ไทโรซีน, ฟีนิลอะลานีน, ทรีพโพเพน มากขึ้น ซึ่งโปรตีนในกลุ่มดังกล่าวจะไปเป็นอาหารหลักให้กับเซลล์สมองและเซลล์ประสาท โดยจะไปช่วยซ่อมแซม บำรุงสมอง และเซลล์ประสาทส่วนที่ชำรุด ทำให้ระบบประสาททำงานได้ดีขึ้น
น้ำมันกลุ่มสารฟอสเฟอไลปิด (ในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว) ที่ได้จากการย่อยอาหาร จะถูกลำเลียงไปเลี้ยงระบบสมองมีการเชื่อมต่อเซลล์สมอง ประสาทจุดไซแน้ฟที่หลุดหายไป และทำให้เดนไดรท์ มีการเชื่อมต่อได้มากขึ้น ทำให้มีความจำดีขึ้น
กลุ่มแร่ธาตุ K+, Mg+2, Na+ จะทำให้การทำงานของระบบเซลล์ประสาท, สมองสั่งการได้ดีขึ้น
กลุ่มวิตามินบี-คอมเพล็กซ์ (B-Complex) ทำให้การใช้พลังงานจากการสลายตัวของแป้ง และน้ำตาลได้ดีขึ้น
กลุ่มวิตามินอี (E) ช่วยป้องกันไม่ให้สมองถูกอนุมูลอิสระทำลาย

โรคความดันโลหิตสูง 
น้ำมัน Linoleic acid (ไลโนเลอิค) ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงสภาพเป็นโปสตาแกรนดิน ให้กลายเป็นฮอร์โมนที่ลดการบีบตัวของเส้นเลือด ทำให้ลิ่มเลือดสลายตัว ทำให้การทำงานหนักของหัวใจน้อยลง
วิตามินอีในรูปแอลฟ่าโทโคฟีรอลและโทโคไทรอีนอล ช่วยละลายลิ่มเลือดทำให้ความดันโลหิตลดลง ทำให้การนำเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้มากขึ้น ทำให้ไม่เกิดอาการขาดเลือดบางส่วน ไม่ก่อให้เกิดอาการเลือดขอดคั่ง ช่วยละลายคอเลสเตอรอลในเลือดที่ไปเลี้ยงต่อมใต้สมอง, ต่อมหมวกไต, ทำให้ระบบการทำงานของฮอร์โมนในอวัยวะดังที่กล่าวมาทำงานได้ปกติ ทำให้การหลั่งฮอร์โมนนอร์อิเนพพลินลดลง ทำให้เส้นเลือดคลายตัว การหลั่งเคนินฮอร์โมนมากขึ้นจากต่อมหมวกไตมีผลให้เลือดคลายตัว ลดการสร้างฮอร์โมนเรนนินที่เป็นสาเหตุให้การบีบตัวของเส้นเลือดลดลง
วิตามินบี-คอมเพล็กซ์ ในน้ำมันรำข้าวสกัด ช่วยทำให้การสลายตัวของแป้งและกลูโคสได้ง่ายขึ้นในกระบวนการไกลโคไลซีส

ข้อมูลอ้างอิง 
  1. Arai T.Horumon To Rinsho 1982 : 30 ( 3) 271-79
  2. Grunewald K. et al Sport med 1993 : 15 (2) : 90103
  3. Shinomiya M. et al Tohoku j Exp Med 1983 : 141 (2) : 243 - 51
  4. Ishihara M. et al Nippon Sanka Fujinka Gakkai Zasshi 1982 : 34 (2) : 243-51 

วิธีรับประทาน วันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหารเช้า 
ราคาปลีก 1750 บาท 
ราคาสมาชิก 1280 บาท คะแนน 250 PV
บรรจุ 60 แคปซูล 

สนใจสินค้าติดต่อคุณเอกที่เบอร์ 081 406 4915 E-mail Address : akeadi@gmail.com หรือ akeadi@yahoo.com หรือ สั่งซื้อ on-line ได้ที่ http://pgpgoldstar-samui.lnwshop.com/ ครับ และถ้าจะทำธุรกิจกับบริษัท PGP Gold Star รบกวนสมัครสมาชิกก่อนนะครับโดยการกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มนี้นะครับ  เดี๋ยวผมจัดการให้ทุกอย่างครับ

อัตรค่าส่งสินค้าตามที่บริษัทกำหนดมีดังนี้คือ
ซื้อ3000 บาทขึ้นไปต่อบิล ค่าส่งธรรมดา ฟรี / EMS เพิ่มอีก 100 บาทจากราคาสินค้า
ซื้อน้อยกว่า 3000 บาทต่อบิล ค่าส่งธรรมดา 100 บาท / EMS / 200 บาท 

เลือกธนาคารที่สะดวกโอนเข้าตามรายการด้านล่างครับ ชื่อบัญชี อดิศักดิ์ รอดแก้ว ทุกบัญชีครับ) ถ้าสั่งเกิน 10000 บาทขึ้นไปต่อบิลส่งฟรี EMS หรือบริษัทขนส่งอื่น ครับ 


หลังจากโอนเงินเสร็จแล้วรบกวนแจ้งด้วยนะครับว่าโอนเข้าบัญชีไหนนะครับ Tel : 081 406 4915 

Oryzanol 48 P & Q10 can help to prevention, treatment and cure of certain diseases and restore the system of body as well.
Rice bran oil : strengthen the immune system, repair cells, reduce the risk of developing cancer. Reduce stress, enhance memory.
Gamma Oryzanol 48 : reduces cholesterol in the arteries.
Co Q10 : Gives energy to the cells and antioxidant.(free radical)
Vitamin E : helps the functioning of the nervous system. Help keep the skin moist. Elastic skin.

How to eat : 1 capsule daily with breakfast.
Price : 1,750 THB
Containing : 60 capsules.

If you are interested in this product please contact Mr.Adisak Tel: 081 406 4915 free delivery service all over Koh Samui.

...........................................................................................................
คุณอาจถูกใจสิ่งนี้ 
...........................................................................................................

BOOM COLLAGEN PLUS 
ร่างกายคนของเราประกอบด้วยคอลลาเจน พบได้ตามผิวหนัง อวัยวะภายใน กระดูก รวมถึงเส้นเลือด เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่างกายจะผลิตลดลงและค่อยๆ เสื่อมลง

สัญญาณอันตราย เมื่อร่างกายขาด คอลลาเจน 
1. ผมร่วง เปราะบาง ไม่แข็งแรง 
2. เล็บฉีกขาดง่าย 
3. เอ็น ข้อเข่าไม่แข็งแรง 
4. กระดูกและฟันไม่แข็งแรง 
5. ผิวเหี่ยว มีริ้วรอยก่อนวัย 
6. ร่างกายสะสมสารพิษมากขึ้น 
7. มีความเสี่ยงเกิดโรคทางเดินอาหาร 
8. ป่วยง่าย ภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง


BOOM COLLAGEN PLUS. 

เติมสิ่งดีๆ ให้ร่างกายด้วย BOOM Collagen ด้วยคอลลาเจนไดเปปไทด์และไตรเปปไทด์จากเกล็ดปลาน้ำจืด มาพร้อมสารอาหารและส่วนผสมจากวิตามินซีธรรมชาติ ครบ จบ ในซองเดียว


1 ความคิดเห็น:

  1. น้ำมันรำข้าวผสมโคคิวเท็น Oryzanol 48 P Q10
    การนำสองสิ่งที่มีประโยชน์มารวมในเม็ดเดียวกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ สร้างความแข็งแรงต้านทานโรค ช่วยให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรง น้ำมันรำข้าวผสมโคคิวเท็น Oryzanol 48 P Q10 (ออริซานอล โฟตี้เอท พี คิวเท็น)
    สุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูงแนวใหม่ การนำ 2 สิ่งมหัศจรรย์ที่มีประโยชน์ มารวมกัน
    ในยุคสมัยนี้ ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ตาม กระแสน้ำมันรำข้าว ยังไม่เคยตกกระแสเลยทีเดียว แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว หลายคนมักจะเน้นเรื่องความสำคัญของ สารแกมม่า ออริซานอล แสดงว่า สารแกมม่า ออริซานอล ย่อมมีผลโดยตรงต่อความมีประโยชน์ของน้ำมันรำข้าว แล้วสารแกมม่า ออริซานอลที่ว่านี้ คืออะไร?
    แกมม่า ออริซานอลเป็น สารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญมาก กล่าวง่ายๆ คือ สารแกมม่า ออริซานอล เป็นตัวช่วยที่ทำให้ร่างกาย เสื่อมถอย พังทลาย ช้าลง ไม่ใช่เพียงแค่นี้ ลองคิดต่อไปว่า ถ้าร่างกายทุกอวัยวะ เสื่อมถอย ช้าลง พังทลาย ช้าลง ก็หมายความว่า ร่างกายแก่ช้าลง เหี่ยวช้าลง แรงไม่ตก ผ่านไปหลายปีก็ยังทำงานได้เหมือนเดิม สุขภาพดีๆ ที่ใครๆ ก็ต้องการ...
    อนุมูลอิสระ คืออะไร ? อนุมูลอิสระ คือ สารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ วงการวิทยาศาสตร์ปัจจุบันถือว่าเป็น สารพิษที่ทำอันตรายต่อร่างกายของมนุษย์มากที่สุด เกิดขึ้นได้ทั้งภายในร่างกายและภายนอกร่างกายมนุษย์ นอกจากนี้แล้ว สารอนุมูลอิสระยังมีความร้ายกาจอีกมากมายที่คุณยังไม่เคยรู้
    1. โจมตี...ทำลายดีเอ็นเอ (หน่วยพันธุกรรม) ทำให้เสื่อมสภาพ รหัสพันธุกรรมผิดปกติส่งผลให้เซลล์ตายเร็วกว่าปกติ หรือกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็ง
    2. ทำลายระบบหลอดเลือดและหัวใจ ทำให้หลอดเลือดอุดตัน เป็นที่มาของสมองตาย อัมพาต กล้ามเนื้อหัวใจตาย ฯลฯ
    3. ทำลายเอนไซม์ที่เร่งปฏิกิริยาเคมีต่างๆ ในเซลล์ ทำให้เซลล์ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ เซลล์เสื่อมไว ทำให้เกิดโรคแห่งความเสื่อมทั้งหลาย เช่น เบาหวาน โรคข้อเสื่อม โรคภูมิแพ้ แก่เร็ว ตาต้อทั้งหลาย ความเสื่อมทั้งหลายของการมองเห็น แก่ไว
    4. ทำลายผนังเซลล์ (เยื่อหุ้มเซลล์) ทำให้ความต้านทานของเซลล์ต่างๆ ลดลงเซลล์จะตายไวกว่าปกติ เกิดโรคต่างๆ ง่าย และแก่ง่าย
    ปัญหาทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมาจะลดลงทันที...เมื่อเจอน้ำมันรำข้าว
    ย้ำกันอีกครั้งว่า แกมม่า ออริซานอล เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญมาก เป็นสารที่ทำให้ร่างกายทั้งหมดเสื่อมถอย พังทลาย ช้าลง นอกจากสาร แกมม่า ออริซานอล ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ก็ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้ว เช่น ไวตามิน A, C, E, กลูต้าไธโอน และโคคิวเท็น
    โคคิวเท็น (Co Q10) สำคัญอย่างไร ? โคคิวเท็น เป็นอีก 1 สารต้านอนุมูลอิสระ ที่นอกจากจะรู้จักกันดีว่าเป็นตัวที่ช่วยเรื่องการใช้พลังงานของเซลล์แล้ว ยังจะมีประโยชน์อีกอย่าง ก็คือมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
    ใน 1 เม็ดของ น้ำมันรำข้าวผสมโคคิวเท็น ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจน ก็คือ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี ถึง 2 ตัว และยังช่วยเรื่องพลังงานได้อีกด้วย ทาน 1 เม็ดได้ประโยชน์ยกกำลัง 3 จะลังเลอยู่ทำไม
    เริ่มดูแล ฟื้นฟูหัวใจและเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย ด้วย น้ำมันรำข้าวผสมโค คิวเท็น เพื่อประสิทธิภาพในการต้านสารอนุมูลอิสระ

    ตอบลบ